การให้คำปรึกษา แปลมาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ Counseling ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึง การให้คำปรึกษา คำแนะนำ หรือการให้ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือ แต่ “การปรึกษาเชิงจิตวิทยา” มีความหมายที่แตกต่างออกไป โดยจากสมาคมการปรึกษาเชิงจิตวิทยานานาชาติ (International Association for Counseling: IRTAC) ให้นิยามจิตวิทยาการปรึกษาไว้ว่า คือ วิธีการแห่งการสร้างความสัมพันธ์และการตอบสนองต่อผู้อื่นโดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นโอกาสให้บุคคลได้สำรวจตนเอง ทำให้ชีวิตชัดเจนขึ้น และใช้ชีวิตในทางที่น่าพึงพอใจและสร้างสรรค์

Blogger templates

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

ทองคำอันน่ากลัว


ยังมีนักพรตผู้หนึ่งวิ่งตาลีตาเหลือกออกมาจากป่า พอดีถูกคนสองคนซื่งเป็นสหายสนิทกันอย่างยิ่งพบเห็นเข้า คนทั้งสองจึงเอ่ยถามนักพรตรูปนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาหลบหนีสิ่งใดมา
นักพรตตอบว่า

"ข้าพเจ้าบังเอิญขุดเจอทองคำฝังอยู่ที่โคนต้นไม้ในป่า เป็นที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก!"

เมื่อคนทั้งสองได้ยินก็ตื่นเต้นสุดระงับ แอบกระซิบกระซาบต่อกันว่า

"คนผู้นี้ช่างโง่เขลาปัญญาอ่อนเสียจริง ขุดเจอทองนับเป็นโชคแท้ๆ แต่กลับกลัวจนตัวสั่น"

จากนั้นจึงตะล่อมถามนักพรตต่อไปว่า
"ท่านขุดเจอทอง ณ ที่ใด สามารถบอกพวกเราได้หรือไม่?"


นักพรตจึงตอบว่า
"ของที่อันตรายเช่นนี้พวกท่านไม่กลัวหรืออย่างไร ไม่ทราบหรือว่าทองคำพวกนั้นมันสามารถกินคนได้!"

คนทั้งสองจึงรีบเอ่ยว่า "พวกเราไม่กลัวหรอก ท่านรีบบอกมาเถิดว่าทองคำอยู่ที่ใด?"

สุดท้ายนักพรตจึงบอกว่า "ทองคำอยู่ที่โคนต้นไม้ต้นริมสุดทางทิศตะวันตกของป่า"

เมื่อได้ยินดังนั้นคนทั้งสองก็รีบผละจากนักพรตมุ่งหน้าไปยังจุดที่พบทองคำทันที ระหว่างนั้น
สหายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า
"นักพรตรูปนั้นทึ่มจริงๆ ทองคำที่ทุกผู้ทุกคนต่างเฝ้าใฝ่ฝันถึงมากองอยู่ตรงหน้า กลับวิ่งหนีไปเสียได้" 

ซึ่งสหายอีกผู้หนึ่งก็พยักเพยิดเห็นด้วย จากนั้นทั้งสองจึงปรึกษากันว่าจะนำทองคำกลับไปได้อย่างไร สหายผู้หนึ่งจึงเสนอว่า
"หากขนทองคำกลับไปในตอนฟ้าสว่างเห็นจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ เราควรขนไปตอนฟ้ามืดจะดีกว่าเดี๋ยวข้าจะเฝ้าทองคำอยู่ที่นี้ ส่วนท่านเดินทางเข้าเมืองไปเสาะหาอาหารและน้ำดื่มมารับประทานร่วมกัน เมื่อรับประทานเรียบร้อยรอให้ค่ำมืด ค่อยลงมือขนทองคำ"

ดังนั้นสหายผู้หนึ่งจึงเดินทางกลับเข้าเมืองเพื่อไปหาข้าวปลาอาหาร ส่วนสหายอีกผู้หนึ่งที่อยู่เฝ้าทองคำก็ขบคิดวางแผนว่า 
"หากทองคำทั้งหมดตกเป็นของข้าเพียงผู้เดียวก็คงจะดีไม่น้อย เช่นนี้ดีกว่า หากเพื่อนของข้ากลับมาก็ใช้ท่อนไม้ทุบตีมันให้ตาย เท่านี้ก็ไม่ต้องแบ่งส่วนแบ่งทองคำให้กับผู้ใด" 

ส่วนสหายที่เดินทางเข้าเมืองก็ครุ่นคิดว่า
"ข้าจะเข้าเมืองไปรับประทานอาหารให้อิ่มเสียก่อน จากนั้นนำยาพิษใส่ในอาหารกลับไป
ให้สหายข้า เท่านี้ทองคำก็จะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว"

ชายที่เดินทางเข้าเมืองดำเนินการตามแผนเรียบร้อย จากนั้นนำอาหารกลับมายังชายป่าที่ซ่อนทองคำ แต่ยังไม่ทันระวังตัว เขากลับถูกสหายรักใช้ท่อนไม้ฟาดจากทางด้านหลัง จนเสียชีวิตทันที จากนั้นมือสังหารจึงแก้ห่อข้าวที่เพื่อนผู้ล่วงลับนำมาให้ รับประทานด้วยความหิวโหย แต่ไม่ทันไรก็ต้องล้มลงดิ้นทุรนทุรายเนื่องเพราะได้รับพิษที่อยู่ในอาหาร ในชั่ววินาทีก่อนที่ชายผู้ถูกพิษจะสิ้นใจ เขาพลันนึกถึงคำที่นักพรตได้เตือนเอาไว้ จึงได้แต่รำพึงว่า

"จริงดั่งคำที่นักพรตว่าไว้ ทองคำนั้นน่ากลัวยิ่ง เพราะมันสามารถกลืนกินมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโลภอย่างเรา" 

จากนั้นจึงลาโลกไปในลักษณะนั้น