เคยพูดความฝันของเรากับใครแล้วเขาหัวเราะหรือยิ้มรับเราแบบลอยๆ พาให้ใจเรารับรู้ถึงความไม่ใส่ใจในคำพูดเหล่านั้นของเราหรือเปล่า
เคยพยายามสร้างฝันจนมันเหนื่อย มันท้อ แต่พอมองหาคำพูดสนับสนุนจิตใจแล้วกลับพบว่าไม่มีใครเข้าใจหรือมองว่าสิ่งที่เราทำนั้นแสนจะธรรมดาบ้างไหมครับ และก็คิดว่าหลายๆคนก็คงเคยเป็นเช่นกัน
ฝันจะเป็นหมอ ฝันจะเป็นนักร้องดัง ฝันจะเป็นวิศวกรที่มีชื่อเสียง ฝันจะเรียนจบปริญญาเอก ฝันจะเป็นครูอาสา ฝันจะเป็นนักกีฬาทีมชาติ ฝัน ฝัน ฝัน
.jpg)
ความเพียร พยายาม คือ ย้ำทำอยู่อย่างนั้น สม่ำเสมอ ไม่สนใจใครพูดจาว่าอะไร เสียงชม เสียงตำหนิ รับมาแล้วกองไว้ เหลือเอาไว้แค่หัวใจอันมุ่งมั่นศรัทธาในแรงกายแรงใจของตัวเอง
ระหว่างทางเราจะพบกับความเหนื่อยล้า ท้อแท้ และไม่เข้าใจ เพราะคนอื่นยังไม่สามารถเห็นมันได้เป็ นรูปธรรม เขาเห็นเพียงคนๆหนึ่งพ่นอากาศออกมา ได้ยินเพียงคำพูดลอยๆเป็นนามธรรมเท่านั้น เราก็ต้องเข้าใจเขาว่า มันเป็นลมปากวาดฝัน ไม่ใช่ปั้นออกมาให้เห็นเป็นจริงประจักษ์อยู่ตรงหน้า ใครจะสนใจ
จากนั้นเราก็ต้องทุ่มเทต่อไป พูดง่ายๆคือสิ่งที่ต้องทำคือลงมือ "ทำ"
"ทำ" เหมือนการสร้างบ้านก่ออิฐไปเรื่อยๆ ทีละก้อน ทีละก้อน จะไม่มีใครรู้เลยว่าเรากำลังก่ออิฐเป็นรูปอะไร กระทั่งก่อเสร็จ ฉาบปูน มุงหลังคา ทาสีให้มันสวยสด ได้ "ผลงาน" นั่นแหละครับคือสิ่งที่จะทำให้คนสนใจ
"ผลงาน" ไม่ต้องดีเลิศ ไม่ต้องประสบความสำเร็จสูงสุดมีรางวัลการันตี แค่มีอะไรให้เขาเห็น มองเห็นได้ด้วยตา แค่นั้นมันก็มีค่าพอที่คนจะตีค่างานของเราแล้ว
เพราะมันไม่ใช่แค่อากาศ คำโฆษณา คำพูดไม่ได้มีค่าสำหรับสิ่งที่ต้องใช้การกระทำและผลงานการันตี
ใครฝันอะไร กำลังก่อร่างสร้างฝันอยู่ ปั้นมวลอากาศและฝุ่นผงนั้นไปเรื่อยๆครับ ปั้นจนกว่ามันจะเป็นรูปเป็นร่าง ปั้นจนกว่าความฝันจะเป็นความจริงครับ
แค่ทำไปไม่หยุด ในที่สุดเราก็จะถึงเป้าหมาย หรือถ้ามันจะไกลเกินไป อย่างน้อยเราก็ได้ก้าวย่างเดินทาง ไม่สักแต่พูดว่าจะไปแล้วไม่ก้าวเดินจริงไหมครับ
สู้ๆครับทุกคน