เรื่องราวที่เกี่ยวกับความยึดมั่นถือมั่น เป็นที่เล่าขานกันมากที่สุด คือเรื่องนี้
พระสองรูปกำลังโต้เถียงกันเรื่องธง
พระรูปหนึ่ง พูดว่า " ธงกำลังไหว "
พระอีกรูปหนึ่ง พูดว่า " ลมต่างหากที่กำลังไหว "
พระสังฆปรินายกองค์ที่หกคือ ท่านเว่ยหลางได้ยินเข้า ก็เลยพูดกับพระทั้งสองว่า
" ลมไม่ได้ไหว ธงก็ไม่ไหว จิตของเธอต่างหากที่กำลังไหว "
ข้อสังเกตของท่านเว่ยหลางตรงนี้ มีความหมายเป็นสองนัย ประเด็นแรก ท่านเว่ยหลาง ต้องการขจัดความคิดยึดมั่นถือมั่นต่อสิ่งภายนอกของพระสองรูป ที่ยึดเอาธงกับลมเท่านั้น ว่าเป็นตัวกำหนดความเคลื่อนไหว โดยท่านเว่ยหลางชี้ไปที่จิต ซึ่งเป็นสิ่งอยู่ภายในอันตรงข้ามกับสิ่งภายนอก
นั้นว่า จิตต่างหากที่กำลังถูกสั่นไหว
ประเด็นนี้ ท่านประสงค์เพียงชี้ให้เห็นความผิดพลาดของทรรศนะการมองโลก ที่ยึดแต่ภายนอกเพียงด้านเดียว โดยละเลยอีกด้านหนึ่งคือ ด้านที่เป็นภายใน
ตรงนี้ขอขยายความหน่อยหนึ่งว่า " ภายนอก " ในที่นี้ก็คือทุกสิ่งไม่ยกเว้นอะไรเลย นอกจาก " จิต " และภายในก็คือ " จิต " เท่านั้น
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งมีนัยลุ่มลึกพิสดารนัก เคยมีเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่พยายามอธิบาย คำพูดของท่านเว่ยหลางประโยคนี้ด้วยเรื่องว่า
มีแม่ชีรูปหนึ่ง ครั้นได้ฟังพระสองรูปเล่าถึงเรื่องนี้นางก็กล่าวกับ พระทั้งสองรูปนั้นว่า
" ธงไม่ไหว ลมไม่ไหว จิตก็ไม่ไหว "
ตรงนี้แหละสำคัญนัก เพราะตรงเป้าหมายของความไม่ยึดมั่นถือมั่นอย่างถึงทีสุด คือนอกจากไม่ให้ยึดภายนอกแล้วก็ยังไม่ให้ยึดภายในด้วยเป็นการ " ปล่อยวาง " อย่างแท้จริง
วิธีสอนแบบเซนต้องไม่อธิบาย ปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ทั้งหลาย ปรากฏตามสภาพความเป็นจริง ยิ่งให้คำอธิบายยิ่งพรรณาถึงสิ่งนั้น ๆ หรือยิ่งวิเคราะห์ ยิ่งปรุงแต่ง ก็ยิ่งผิดความหมายที่แท้จริงของสิ่งนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นไปทุกที
ธงก็ตาม ลมก็ตาม จิตก็ตาม ล้วนเป็นสภาพอันปรากฏอยู่เช่นนั้นย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยให้ดำเนินให้เป็นไปนั้น ๆ จิตคือสภาพที่รับรู้สภาพอันเป็นจริงอยู่นั้น ไม่มีอะไรอื่นนอกจากนี้
จากเรื่องข้างต้น จิตเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดจากภายนอก กล่าวคือ เพราะลมไหวธงจึงไหวจิตถูกลมและธงกำหนดให้ไหวตามไปด้วย
นี่เป็นเบื้องต้นของวิธีมองโลกแบบเซน คือขจัดความคิดปรุงแต่ง ปล่อยให้ภายนอกกับภายใน ได้สัมผัสกันอย่างแท้จริง โดยปกติธรรมดาที่สุดตามธรรมชาติที่ควรเป็นไปของมัน
เซน ถือว่า นี่เป็นวิธีเดียว ที่เราจะประจักษ์ต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
อย่างถูกต้องตามเป็นจริงที่สุดเรามักมองสิ่งต่าง ๆ ด้วยรูปลักษณ์นานาแตกต่างกันไปตามความยึดมั่นถือมั่นด้วยกันทั้งสิ้น
การให้คำปรึกษา แปลมาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ Counseling ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึง การให้คำปรึกษา คำแนะนำ หรือการให้ข้อมูลเพื่อช่วยเหลือ แต่ “การปรึกษาเชิงจิตวิทยา” มีความหมายที่แตกต่างออกไป โดยจากสมาคมการปรึกษาเชิงจิตวิทยานานาชาติ (International Association for Counseling: IRTAC) ให้นิยามจิตวิทยาการปรึกษาไว้ว่า คือ วิธีการแห่งการสร้างความสัมพันธ์และการตอบสนองต่อผู้อื่นโดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นโอกาสให้บุคคลได้สำรวจตนเอง ทำให้ชีวิตชัดเจนขึ้น และใช้ชีวิตในทางที่น่าพึงพอใจและสร้างสรรค์